"โรคลมพิษ" อาจดูไม่ใช่โรคร้าย...แต่คุณก็ไม่อาจมองข้าม

โรคลมพิษ คืออะไร ?

โรคลมพิษ หรือ ผื่นลมพิษ (Urticaria) มีลักษณะเป็นผื่น ปื้นนูนแดงขึ้นมาที่ผิวหนัง มีอาการคัน ผื่นลมพิษขึ้นได้ทั้งร่างกาย แขน ขา เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 20-40 ปี อาการมักอยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่ก็อาจมีผื่นลมพิษขึ้นมาใหม่อีกได้

อาการ

ลมพิษมีลักษณะเป็นผื่นแดง นูน คัน และมีขนาดต่างกันออกไป อาจเป็น ๆ หาย ๆ ได้หลายวัน ในบางรายนอกจากมีผื่นขึ้นแล้วอาจมีอาการบวมได้ที่ ริมฝีปาก เปลือกตา แขน ขา ถ้าบวมที่กล่องเสียงจะทำให้แหบหรือหายใจลำบากและเป็นอันตรายได้

สาเหตุของโรคลมพิษ

โรคลมพิษ เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยเมื่อร่างกายมีปฎิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ ร่างกายปล่อยสาร "ฮีสตามีน (Histamine)" และสารอื่น ๆ เข้าสู่กระแสเลือดเป็นจำนวนมาก ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมาหรือน้ำเลือดซึมออกมาในผิวหนัง จนทำให้เกิดผื่นนูนแดงที่ผิวหนังขึ้น ลมพิษ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

• แพ้อาหาร เช่น แพ้อาหารทะเล สารกันบูด
• แพ้ยา ปฏิกิริยาการแพ้ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดผื่นลมพิษได้
• การติดเชื้อ การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือมีพยาธิ
• โรคระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคต่อมไทรอยด์
• แพ้สารที่สัมผัส แพ้ยาง (Iatex) ขนสัตว์ พืช สารเคมีบางชนิด
• แพ้พิษแมลง เช่น ปฏิกิริยาที่เกิดจากผึ้ง ต่อต่อย
• มะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือระบบอื่น ๆ ของร่างกาย
• ระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง เกิดจากมีภูมิคุ้มกันไปกระตุ้นให้เกิดการ หลั่งสารเคมีบางชนิดออกมาที่ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นลมพิษขึ้น

การวินิจฉัย / การรักษา

แพทย์ทำการสอบถามประวัติของคนไข้อย่างละเอียดเพื่อหาสิ่งที่เป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดผื่นลมพิษ ในบางรายอาจมีความจำเป็นต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสิ่งกระตุ้นการรักษาแพ้อาหาร เช่น แพ้อาหารทะเล สารกันบูด

1. ถ้าเจอสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษแพทย์ให้คำแนะนำ (ควรหลีกเลี่ยงสารแพ้)
2. ส่วนใหญ่จะพบไม่ทราบสาเหตุ แม้ว่าแพทย์จะได้การตรวจอย่างละเอียดแล้ว

*การรักษาผื่นลมพิษทั้งสองแบบนั้น เบื้องต้นแพทย์อาจให้ยาทาหรือยากินประเภทสารต้านอีสตามีนเพื่อบรรเทาอาการคัน แล้วนัดผู้ป่วยมาติดตามอาการในอีก 1 สัปดาห์

การป้องกัน

1. สังเกตและจดบันทึกอาการเมื่อมีผื่นขึ้น ลักษณะเวลาที่เกิด อาหารที่รับประทาน สารเคมีที่สัมผัส เป็นต้น เพื่อช่วยค้นหาสาเหตุของการเกิดลมพิษ
2. เมื่อค้นหาสาเหตุ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น
3. ถ้าเป็นมากหรือเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุและการรักษาที่ถูกต้อง เช่น รักยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการ

*เมื่อเป็นลมพิษ และมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก นั้นคืออาการที่คุณควรให้ความสำคัญและควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

ติดตามข้อมูล ข่าวสารอื่น ๆ ได้อีกช่องทาง Facebook

สอบถามข้อมูลและเข้ารับบริการที่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์

151 หมู่ 4 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี 
โทรศัพท์ : 037-239665