โรคภูมิแพ้คืออะไร ?
โรคภูมิแพ้ (hypersensitivity) เป็นโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายอย่างผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ ส่งผลให้มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในอวัยวะที่สัมผัสหรือไวต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น ซึ่งในร่างกายคนปกติจะแพ้สารก่อภูมิแพ้ได้น้อยมากหรืออาจจะไม่มีอาการ ส่วนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้แต่ละรายจะมีอาการเกิดขึ้นแตกต่างกันและรุนแรงไม่เท่ากัน แม้จะเป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ตาม ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของอวัยวะนั้นๆ
สารก่อภูมิแพ้มี 2 ประเภท ได้แก่
- สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนสุนัข ขนแมว เกสรหญ้า หรือเชื้อรา เป็นต้น
- สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ อาหารทะเล หรือแป้งสาลี เป็นต้น
โดยไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งพบบ่อยในบริเวณที่นอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้านวม หรือพรมภายในห้องนอน ตัวไรฝุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมภายในห้องนอน
กลุ่มโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยในคนไทย
พบได้ในเด็กตั้งแต่อายุประมาณ 2 ปี และสามารถเป็นได้ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ โรคนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกเรื้อรัง เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ทำให้มีอาการคัดจมูก จาม มีน้ำมูก โดยการมีน้ำมูกในบางคนอาจมีน้ำมูกไหลลงคอ ทำให้เกิดเสียงแหบตามมา หรือในบางรายพบว่ามีน้ำมูกที่ค้างในโพรงจมูก ทำให้เกิดเลือดกำเดา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ
เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย เมื่อได้รับประทานอาหารที่แพ้ ผ่านกลไกภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดอาการในระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยอาการอาจเกิดขึ้นเพียงระบบเดียวหรือหลายระบบ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การแพ้อาหารเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อาหารที่เป็นสาเหตุของการแพ้ในเด็กเล็กที่พบมาก คือ นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี ถั่วลิสง สำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่พบว่า อาหารทะเลเป็นสาเหตุสำคัญของการแพ้อาหารที่พบบ่อย ซึ่งบางครั้ง ผู้ที่แพ้อาหารอาจรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของอาหารที่แพ้เข้าไปโดยไม่รู้ตัว จนเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
พบบ่อยในเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 1-2 เดือน จนถึงเด็กโต มักมีอาการเป็นผื่นแห้งแดง คันตามบริเวณผิวหนัง เป็นลมพิษ ตาบวม ปากบวม โดยการเกิดภูมิแพ้ในกลุ่มนี้จะมีความสัมพันธ์กับกลุ่มภูมิแพ้อาหาร ซึ่งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยให้ชัดเจน เพราะอาจเกิดการแพ้อาหารจริง หรืออาจเป็นเพียงอาการแสดงจากการได้รับการกระตุ้นจากอาหารเหล่านั้น
สาเหตุของโรคภูมิแพ้
- พันธุกรรม โรคภูมิแพ้หลายโรค จะเกิดขึ้นได้ง่ายถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่นภูมิแพ้ในเด็กยิ่งถ้ามีประวัติว่าทั้งพ่อและแม่เป็น จะยิ่งมีโอกาศมากกว่าพ่อหรือแม่เป็นฝ่ายเดียว กล่าวคือถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะทำให้ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณร้อยละ 30-50 แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึงร้อยละ 50-70 ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลยมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียง 10%
- สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าสู่ร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ การรับประทาน หรือการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้และการแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น มีอาการหลังจากรับประทานอาหารทะเล อาจเกิดผื่นลมพิษภายในเวลาครึ่งชั่วโมง หรือรับประทานยาแล้วมีผื่นขึ้น ผู้ป่วยกวาดบ้าน เล่นกับแมวหรือสุนัขแล้วเกิดอาการจาม คัดจมูกหรือหอบ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งเสริมให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ ได้แก่ อากาศเปลี่ยน การสัมผัสสารระคายเคือง เช่น ควันธูป ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสีย มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 5
5 วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ จากอากาศ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาหาร และส่วนผสมของอาหารชนิดต่างๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อลดอาการแพ้ที่อาจเกิดจากอากาศ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและปอด ให้มีการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ นำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น